ศูนย์ฯ ทางทะเล 5 เผยผลสำรวจสถานภาพปะการัง อช.หมู่เกาะอ่างทอง ส่วนใหญ่ปกติ พบบางส่วนที่ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง 27 พฤษภาคม 2568 – ศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ได้รายงานผลการดำเนินภารกิจสำรวจและติดตามสถานภาพปะการัง ณ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ผลการสำรวจชี้ว่าปะการังส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในสภาวะปกติและสมบูรณ์แข็งแรง โดยมีปะการังประมาณ 5% ที่เริ่มแสดงอาการสีซีดจาง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการติดตามและวางแผนดูแลในระยะต่อไป ภารกิจสำรวจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานภายใต้แนวทางของมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่มุ่งเน้นการติดตาม อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างยั่งยืน การสำรวจจึงนับเป็นขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน เพื่อประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน และสนับสนุนการวางแผนการจัดการตามแนวพระดำริอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำรงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลอันทรงคุณค่านี้ไว้ นายชัยณรงค์ เรืองทอง หัวหน้าศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 5 (นครศรีธรรมราช) เปิดเผยว่า ทีมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ฯ และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจสำรวจปะการังครอบคลุม 14 สถานีหลักทั่วหมู่เกาะอ่างทอง จากการประเมินเบื้องต้น พบว่า 7 สถานี มีปะการังอยู่ในสภาพปกติสมบูรณ์ ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของสี ขณะที่อีก 7 สถานี พบปะการังมีอาการสีซีดจางในสัดส่วนที่น้อยกว่า 5% ซึ่งทีมงานจะเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพและปัจจัยแวดล้อมที่น่าสนใจ การสำรวจครั้งนี้ได้บันทึกความหลากหลายของชนิดปะการังเด่น อาทิ ปะการังโขด (Porites sp.), ปะการังดอกไม้ทะเล (Goniopora sp.), ปะการังสมองร่องยาว (Platygyra sp.) และปะการังถ้วยสมอง (Lobophyllia sp.) นอกจากนี้ยังพบการลงเกาะของตัวอ่อนปะการัง (Juvenile coral) หลายชนิด เช่น ปะการังช่องเหลี่ยม (Favites sp.), ปะการังวงแหวน (Dipsastraea sp.) และปะการังจาน (Turbinaria sp.) ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของแนวปะการัง ทีมสำรวจยังได้บันทึกสภาวะของปะการังบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น การทับถมของตะกอน (Sediment damage) การเปลี่ยนแปลงสีของเนื้อเยื่อ (Tissue discoloration) และการแก่งแย่งพื้นที่เพื่อการเจริญเติบโต (Aggressive overgrowth) ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการทำความเข้าใจพลวัตของระบบนิเวศ สำหรับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่พบในแนวปะการัง ได้แก่ ปลาสลิดหินเล็กเกล็ดวาว (Neopomacentrus anabatoides), ปลาบู่ลูกดอกฟิลิปปินส์ (Parioglossus philippinus) และปลาสลิดหินหางพริ้ว (Neopomacentrus cyanomos) ส่วนกลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่พบได้ทั่วไปคือ ฟองน้ำทะเล (Sponges), เม่นทะเล (Sea urchins) และหอยสองฝา (Bivalves) ทั้งนี้ พบขยะในแนวปะการังปริมาณเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นเศษอวน ซึ่งจะมีการประสานงานเพื่อจัดการต่อไป ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่ทีมสำรวจให้ความสำคัญในการติดตามคือ อุณหภูมิน้ำทะเล ซึ่งตรวจวัดได้ระหว่าง 31.00-32.30 องศาเซลเซียส ข้อมูลนี้จะถูกนำมาวิเคราะห์ร่วมกับปัจจัยอื่นๆ เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบต่อปะการังในระยะยาว สำหรับค่าความเค็มเฉลี่ยอยู่ที่ 31.87±0.01 ppt และความโปร่งใสของน้ำทะเลเฉลี่ย 2.28±0.20 เมตร คณะผู้สำรวจจะนำข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมได้จากภารกิจครั้งนี้ไปวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อประเมินสถานภาพของระบบนิเวศปะการังอย่างรอบด้าน และใช้เป็นฐานข้อมูลในการวางแผนการอนุรักษ์และติดตามผลในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลอันล้ำค่าจะยังคงความสมบูรณ์สืบไป