จากกรณีพะยูนน้อยมาเรียมขวัญใจโลกออนไลน์ ได้พลัดหลงกับแม่ จนมานอนเกยตื้นที่อ่าวทึง จังหวัดกระบี่เมื่อสัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือไปไว้ในพื้นที่อนุรักษ์พะยูน ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ท่ามกลางการดูแลอย่างใกล้ชิด 

 

ภาพถ่ายจากเพจ Bottom Line is ถ่ายทอดเรื่องราวความผูกพันธ์ ระหว่างมาเรียมกับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร เป็นความตั้งใจให้ทุกคนที่พบเห็นได้รู้ว่าประชากรพะยูนที่มีอยู่ในไทยประมาณ 300 ตัว ยังอยู่ในความเสี่ยงที่อาจสูญพันธุ์  

 

ย้อนไปเมื่อ 29 เมษายนที่ผ่านมา ชาวบ้านพบพะยูนน้อยเกยตื้นที่อ่าวทึง จังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำไปปล่อยคืนสู่ทะเล แต่พะยูนน้อยยังคงว่ายน้ำกลับเข้ามาใกล้เรือ จึงเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงตัดสินใจย้ายไปยังแหลมจูโหยซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์พะยูน โดยมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครคอยดูแล อย่างใกล้ชิด เนื่องจากลูกพะยูน อายุประมาณ 1 ปี ยังต้องกินนมแม่และไม่มีประสบการณ์การใช้ชีวิต

 

ส่วนพฤติกรรมที่มาเรียม ยึดเรือแคนูสีส้ม ของทีมนักวิจัยที่ดูแลป้อนนม ใช้แขนกอดเรือ ว่ายไปข้างๆ เสมือนเป็นตัวแทนของแม่ สะท้อนว่าลูกพะยูนพลัดหลงตัวนี้คิดถึงแม่ รวมถึงการเข้าซุกนอนตามโขดหินในเวลากลางคืน และช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ไปพบว่าเกยตื้นอีกครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ฯ ต้องร่วมกับสัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกลุ่มพิทักษ์ดุหยง ติดตามเฝ้าระวังมาเรียมอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งป้อนนม และหญ้าทะเล เพื่อให้มาเรียมสุขภาพแข็งแรง

 

ขณะที่ เฟซบุ๊กของ Kongkiat Kittiwatanawong (ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต) ยังได้เผยแพร่คลิปน่ารักของ น.ส.พัชราภรณ์ แก้วโม่ง นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ หัวหน้าชุดดูแลลูกพะยูนมาเรียม โดยระบุว่าความทุ่มเทของทีมงานดูแลมาเรียมครับ ตื่นมาดูแลมาเรียมในช่วงที่คนอื่นหลับกันหมดแล้ว 

 

ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ อยากให้มาเรียมเป็นสื่อกลางให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทะเล เพื่อพี่น้องพะยูนของมาเรียม และทรัพยากรธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลจะได้อยู่กันอย่างปลอดภัยและคงความสวยงาม "วันทะเลโลก" จะมีความสำคัญอย่างแท้จริง หากพวกเราทุกคนร่วมมือร่วมใจช่วยกันดูแลและอนุรักษ์ท้องทะเล ด้วยตัวเราเอง